เชลซีเผยสูตรโค่น PSG คว้าแชมป์ UCL แทคติกเพรสซิ่งพลิกเกมเหนือความคาดหมาย

เชลซีสร้างเซอร์ไพรส์ในนัดชิงชนะเลิศยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก ด้วยการ เอาชนะปารีส แซงต์-แชร์กแมง 3-0 ในเกมที่หลายฝ่ายคาดว่า PSG จะเดินหน้าคว้าแชมป์ยุโรปสมัยแรก หลังฤดูกาลที่เต็มไปด้วยชัยชนะ
แต่เชลซีของ เอ็นโซ่ มาเรสก้า กลับหักปากกาเซียนด้วยการเปลี่ยนรูปแบบการรับมือ PSG ที่ปกติคู่แข่งมักตั้งรับลึกแบบ “low block” ซึ่งมักไม่อาจต้านทานเกมรุกที่ลื่นไหลของทีมจากฝรั่งเศสได้
มาเรสก้านำลูกทีมใช้แทคติก เพรสซิ่งสูงแบบแมน-ทู-แมนตั้งแต่ต้นเกม ซึ่งเขาเผยว่า “เราชนะเกมนี้ตั้งแต่ 10 นาทีแรก” โดยแม้เชลซีมีแค่ 33% การครองบอล และเสียถึง 8 โอกาสยิง แต่เกมรับที่มีวินัย และฟอร์มเหนียวของ โรเบิร์ต ซานเชซ ทำให้พวกเขารอดพ้นจากการเสียประตู
เชลซีจำกัดบทบาทของ เดมเบเล่, ดูเอ้ และควารัตสเคเลีย ได้อยู่หมัด ขณะเดียวกันยังเพรสใส่ วิตินญ่า ไม่ให้คุมเกมแดนกลาง ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของแผนของ หลุยส์ เอ็นริเก้
ประตูของเชลซีมาจากการฉวยโอกาสในจังหวะที่ PSG เสียการควบคุมเกม โดยเฉพาะฝั่งซ้ายของ นูโน่ เมนเดส และ ลูคัส เบรัลโด้ ที่ถูกเจาะซ้ำซากจากการประสานงานของ โคล พาล์มเมอร์ และ มาโล กุสโต ซึ่งสร้างโอเวอร์โหลดและยิงประตูได้ถึงสองครั้ง
แม้จะมีข้อแก้ตัวเรื่องสภาพอากาศที่ร้อนจัดและความล้า แต่ฝั่ง PSG ก็ไม่ใช้เป็นข้ออ้าง โดย หลุยส์ เอ็นริเก้ ยอมรับว่า “เชลซีสมควรชนะ” พร้อมกล่าวว่า “เราไม่ใช่ผู้แพ้ เพราะผู้แพ้ที่แท้จริงคือคนที่ไม่ลุกขึ้นอีก”
ทั้งนี้ จุดอ่อนของ PSG ที่ถูกเปิดเผยในนัดนี้ อาจไม่ส่งผลต่อคู่แข่งในลีกเอิงที่ยังจำเป็นต้องใช้แนวรับลึกเพื่อสู้กับทีมเงินถุงเงินถังของลีก แต่สำหรับคู่แข่งในยุโรปแล้ว เชลซีอาจเพิ่งเผยพิมพ์เขียว ว่าจะต่อกรกับ PSG ได้อย่างไร – ด้วยการ “สู้คุณภาพด้วยคุณภาพ” แทนที่จะตั้งรับแบบยอมจำนน
ปัจจุบัน PSG ยังไม่เริ่มเสริมทัพในตลาดนักเตะ แม้จะเพิ่งรับเงินกว่า 116 ล้านยูโรจากการคว้าแชมป์สโมสรโลก ขณะที่ทีมในลีกเอิงส่วนใหญ่ยังมีข้อจำกัดทางการเงิน จึงอาจต้องกลับไปพึ่งแนวทางตั้งรับลึกแบบเดิมในการรับมือยักษ์ใหญ่จากเมืองหลวงต่อไปในฤดูกาลหน้า

